รับซื้อเพชร

ทางเว็บไม่อนุญาตให้โพสโฆษณา ประชาสัมพันธ์ใดๆ ทั้งสิ้น ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในเว็บไซต์ หากพบทางเว็บจะทำการลบทันที


กำแพงเมืองเชียงราย

  • 1 ตอบ
  • 3567 อ่าน
*

ออฟไลน์ ฮักล้านนา

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • 674
  • 306
    • ดูรายละเอียด
    • วัดร่องขุ่น
กำแพงเมืองเชียงราย
« เมื่อ: มกราคม 31, 2014, 10:27:59 AM »
เมืองเชียงรายสร้างโดยพญามังรายเมื่อ พ.ศ.1805 ด้วยการก่อกำแพงโอบล้อมดอยทอง ซึ่งไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่ามีอาณาเขตและลักษณะอย่างไร ขณะที่แนวกำแพงและประตูเมืองเชียงรายในปัจจุบันนี้เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นในยุคหลัง

ก่อนอื่นจะขอเล่าย้อนไปถึงช่วงปลายสมัยกลางคาบเกี่ยวกับยุค “เก็บผักใส่ซ้า เก็บข้าใส่เมือง”

ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนขั้วอำนาจในล้านนา จากพม่าสู่สยาม พ.ศ.2347 กองทัพเชียงใหม่ นำโดยเจ้าธรรมลังกา (น้องชายพระเจ้ากาวิละ เจ้าหลวงเชียงใหม่) ร่วมกับพันธมิตร คือ ลำปาง เมืองน่าน เวียงจันทน์ และกรุงเทพฯ ยกกองทัพขับไล่พม่าออกจากเชียงรายและเชียงแสนได้สำเร็จ

หลังจากกวาดต้อนเอาไพร่พลลงไปอยู่ตามเมืองต่างๆทางใต้แล้ว เชียงรายและเชียงแสนจึงกลายเป็นเมืองร้างนับแต่นั้นมา

ต่อมา พ.ศ.2386 พระยาพุทธวงศ์ เจ้าหลวงเชียงใหม่ ได้ฟื้นฟูเมืองเชียงรายขึ้นใหม่ เพื่อเป็นฐานกำลังในเขตล้านนาตอนบน มีฐานะเป็นเมืองบริวารของเชียงใหม่ เจ้าหลวงเชียงใหม่ให้ญาติพี่น้องเชื้อสายลำพูนปกครองเชียงราย โดยเจ้าธรรมลังกาเป็นเจ้าหลวงเมืองเชียงราย เจ้าอุ่นเรือนเป็นพระยาอุปราช เจ้าคำแสนเป็นพระยาราชวงศ์ เจ้าชายสามเจ้าพูเกี๋ยงเป็นพระยาราชบุตรและพระยาบุรีรัตน์

ในการฟื้นเมืองเชียงรายครั้งนี้ อาศัยราษฎร 1,000 ครอบครัว ส่วนใหญ่เป็นไพร่เมืองเชียงใหม่และลำพูน ซึ่งเป็นไทเขิน ไทลื้อ และไทใหญ่ ที่ถูกกวาดต้อนมาจากเมืองเชียงตุง เมืองพยาก เมืองเลน และเมืองสาด ตั้งแต่สงครามเมื่อ พ.ศ.2347 โดยไทเขินจะอยู่บ้านสันโค้ง ส่วนไทใหญ่จะอยู่บ้านสันป่าก่อ ขณะที่ไทยวนที่เป็นชนชั้นปกครองจะอยู่ในเวียง

แนวกำแพงเมืองเชียงรายที่เห็นในปัจจุบันสร้างขึ้นในสมัยเจ้าหลวงธรรมลังกานี่แหละ (ถึงจะไม่ค่อยเหลือร่องรอยเท่าไหร่ก็เถอะ)

กำแพงล้อมรอบเวียง มีลักษณะคล้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้า แนวกำแพงด้านทิศเหนือขนานไปกับถนนสิงหไคล ด้านทิศตะวันออกขนานกับถนนพหลโยธิน ด้านทิศใต้ตั้งอยู่บนแนวถนนบรรพปราการ และด้านทิศตะวันตกเริ่มตั้งแต่โค้งหักศอกใกล้สะพานประตูเชียงใหม่ ผ่านเชียงรายคอนโด ก่อนจะอ้อมดอยทองไปบรรจบกับแนวกำแพงด้านทิศเหนือ

เมืองเชียงรายประกอบด้วยประตูเมือง 12 ประตู ดังนี้

         1. ประตูขะต้ำ – อยู่ระหว่างดอยทองกับสนามกอล์ฟแม่กก

         2. ประตูผี – ใกล้ๆเชียงรายคอนโด

         3. ประตูเชียงใหม่ – สะพานประตูเชียงใหม่

         4. ประตูป่าแดง – สามแยกหน้า ร.ร.สามัคคีวิทยาคม

         5. ประตูหวาย – ที่ตั้งของผลงานศิลปะชิ้นเอกของ อ.เฉลิมชัย ซึ่งมนุษย์ทั่วไปเรียกว่า หอนาฬิกาใหม่

         6. ประตูสรี – สี่แยกคริสต์จักรที่ 1 เวียงเชียงราย

         7. ประตูเจ้าชาย – สี่แยกหน้าโรงเรียนเทศบาล 1 ศรีเกิด

         8. ประตูยางเสิ้ง – ริมถนนซูเปอร์ไฮเวย์

         9. ประตูท่อ – หลังอนุสาวรีย์พญามังราย

         10. ประตูท่าทราย – สี่แยกบ้านพักพนักงานยาสูบ ถนนสิงหไคลตัดกับถนนวิเศษเวียง

         11. ประตูนางอิง – สี่แยกสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงฮาย

         12. ประตูท่านาค – ตีนดอย บริเวณทางขึ้นศาลากลางหลังใหม่ (แต่เดี๋ยวนี้มีใหม่กว่า)

ส่วนคูเมืองเชียงรายนั้น ทางทิศเหนือใช้แม่น้ำกกและแม่น้ำกกน้อยเป็นปราการธรรมชาติ ขณะที่ด้านอื่นๆที่เหลือ มีการผันน้ำกกเข้ามาทางสนามกอล์ฟแม่กก ไหลอ้อมดอยทอง ผ่านสะพานประตูเชียงใหม่ เลียบถนนบรรพปราการในปัจจุบันไปทางตะวันออก ก่อนไปบรรจบกับแม่น้ำกกสายเก่าที่ชุมชนเกาะทอง แล้วไหลลงแม่น้ำกกบริเวณสนามกีฬากลาง

ทศวรรษ 2450 ฝ่ายราชการและนายแพทย์วิลเลียม เอ บริกส์ มิชชันนารี ร่วมกันจัดผังเมืองเชียงรายใหม่ โดยการวางถนนให้มีลักษณะตัดกันคล้ายตารางหมากรุกตามแบบเมืองของประเทศสหรัฐอเมริกา ในการนี้ได้มีการถมคูเมืองและรื้อกำแพงเมืองลงด้วย เนื่องจากไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับยุคสมัยแล้ว นอกจากนี้ยังป้องกันน้ำในคูเมืองมิให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรคอีกด้วย

ด้วยเหตุนี้ ปัจจุบันเราจึงไม่เห็นร่องรอยของคูเมืองและกำแพงเมืองเชียงรายเลย แต่ก็นะ ยังมีบางส่วนที่ยังเหลืออยู่ อย่างคูน้ำหน้าโรงเรียนเทศบาล 1 ศรีเกิด หรือที่หน้าโรงเรียนสามัคคีฯ หรือที่สะพานประตูเชียงใหม่ แนวกำแพงเดิมก็ไปดูได้ที่ข้างเชียงรายคอนโด มันจะมีเนินดินอยู่ ส่วนประตูยางเสิ้งที่สร้างใหม่ริมถนนซูปเปอร์ไฮเวย์นั่นก็โอเคนะ เพราะจำลองแบบมาจากภาพลายเส้น ฝีมือนักสำรวจชาวฝรั่งเศส
กำเมือง ถ้าคนเมืองบ่อู้แล้วไผจะอู้

*

ออฟไลน์ oribha

  • Newbie
  • *
  • 2
  • 0
    • ดูรายละเอียด
    • sbobet
Re: กำแพงเมืองเชียงราย
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: เมษายน 21, 2014, 06:28:47 PM »
อยากไปจัง