ภาพถ่าย “มะเมี๊ยะ” (ภาพจริงแท้อย่างไรก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้) สาวน้อยเจ้าของตำนานรักแสนเศร้า (ภาพนี้ได้มาจากแม่ชีท่านหนึ่งที่เป็นอาจารย์ของมะเมี้ยะ ในประเทศพม่า) กับเจ้าน้อยสุขเกษม ณ เชียงใหม่ ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานอา ของเจ้าดารารัศมี พระชายาในรัชกาลที่ 5 ขณะเจ้าน้อยอายุ 15 ถูกส่งไปเรียนที่ รร.เซนต์แพทริก รร.แคธอลิกของฝรั่งที่ประเทศพม่า เพราะขณะนั้นพม่าเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ เจ้าน้อยเรียนอยู่หลายปี วันหนึ่งไปเดินเล่นที่ตลาด ได้พบมะเมี้ยะแม่ค้าสาวสวย เจ้าน้อยอายุ 19 มะเมี๊ยะอายุ 15 เกิดความรักและตัดสินใจแต่งงาน
......จนเจ้าน้อยอายุ 20 เรียนจบถูกเรียกกลับเชียงใหม่ เจ้าน้อยให้มะเมี้ยะปลอมเป็นเด็กรับใช้ชาย แอบในเรือนเล็ก โดยไม่รู้ว่าเจ้าพ่อเจ้าแม่ได้หมั้นเจ้าบัวนวลเอาไว้ให้ เจ้าน้อยไม่ยอมแต่งงาน และเปิดเผยว่ามีเมียแล้วคือมะเมี้ยะ เจ้าพ่อเจ้าแม่ของเจ้าน้อยไม่ยอมรับในตัวมะเมี้ยะ เรื่องนี้ถูกแจ้งไปถึง รัชกาลที่ 5 กับเจ้าดารารัศมี ซึ่งทั้งสองพระองค์ไม่เห็นด้วย เจ้าน้อยถูกวางตัวให้เป็นรัชทายาทของล้านนา ดังนั้นจะมีชายาเป็นพม่าไม่ได้ เพราะขณะนั้นพม่าเป็นเมืองขึ้นอังกฤษ ซึ่งอังกฤษจะถือเอาล้านนาไปเป็นของพม่าด้วย เลยบังคับส่งมะเมี้ยะกลับพม่า
......เจ้าน้อยสัญญาว่าอีก 3 เดือนจะไปรับมะเมี้ยะกลับ ทั้งคู่สาบานกันไว้ว่าจะไม่รักใครอื่น หากใครผิดคำสาบานขอให้อายุสั้น ตอนที่จะส่งมะเมี้ยะกลับพม่านั้นตำนานบันทึกไว้ว่า
"มะเมี้ยะก้มกราบเท้าเจ้าน้อยโดยใช้ผมเช็ดเท้าให้เจ้าน้อยที่ประตูเมือง ชาวบ้านออกมามุงกันทั้งเมืองเพราะได้ยินว่ามะเมี้ยะงามมาก จงรักภักดีบูชาสามีสุดชีวิต แล้วก็กอดขาร้องไห้ เจ้าน้อยก็ร้องไห้ คนที่มามุงดูร้องไห้ไปทั้งเมืองด้วยความสงสารความรักของทั้งคู่ "
......ต่อมาเจ้าน้อยโดนเรียกมายังกรุงเทพเพื่อแต่งงาน โดยเจ้าดาราฯ จัดเจ้าบัวชุม ซึ่งเป็นพระญาติ และเป็นสาวที่สวยที่สุดในตำหนักเจ้าดารารัศมี ร่ำลือกันว่าเล่นดนตรีไทยเก่ง ด้วยเหตุนี้เจ้าน้อยจำต้องแต่งแล้วถูกกักตัวอยู่ที่กรุงเทพ
..... ขณะนั้นเจ้าพ่อของเจ้าดาราฯ สิ้นพระชนม์ เจ้าอาของเจ้าน้อยได้ขึ้นเป็น เจ้าหลวงองค์ใหม่ เจ้าพ่อของเจ้าน้อยได้เป็นเจ้าราชบุตร(อุปราช) เท่ากับว่าเจ้าน้อยเป็นรัชทายาทอันดับ 3 ถ้าสิ้นเจ้าสองพระองค์นี้เจ้าน้อยจะครองเชียงใหม่ ก็ยิ่งไม่มีทางได้รับมะเมี้ยะกลับมา
......มะเมี้ยะรอเกิน 3 เดือน แต่เจ้าน้อยก็ไม่มาตามสัญญาเลยไปบวชชี เพื่อพิสูจน์รักแท้ว่าจะไม่มีคนใหม่ เมื่อได้ยินว่าเจ้าน้อยกลับเชียงใหม่เลยมาดักที่คุ้ม แต่เจ้าน้อยไม่ยอมออกมาพบ (จริงๆ แล้วเจ้าน้อยแอบดูอยู่ข้างหน้าต่าง ได้แต่ร้องไห้ไม่กล้าสู้หน้าที่ผิดสัญญา เลยฝากให้ท้าวบุญสูงพี่เลี้ยง เอาแหวนทับทิม กับเงินอีก 1 กำปั่น ( 800 บาท) ไปให้แม่ชีมะเมี้ยะ ทางด้านแม่ชีบอกว่าไม่มาขอรักคืน เพียงแต่มาถอนคำสาบานให้
...... เจ้าน้อยฝากมาบอกแม่ชีว่า เงินนี่ทำบุญตามแต่แม่ชีจะใช้สอย ส่วนแหวนให้แทนใจ ว่าหัวใจอยู่กับมะเมี้ยะเสมอ แม่ชีเสียใจมาก รับไปแต่แหวนไม่รับเงิน เจ้าน้อยหลังจากกับแม่ชีคราวนั้น ก็เอาแต่กินเหล้าไม่มีใจรักเจ้าบัวชุม ในที่สุดก็ตรอมใจตายหลังจากแต่งงานได้ไม่นาน ขณะที่อายุเพียง 30 ปี (ในบันทึกบอกว่าสิ้นพระชนม์ด้วยโรคพิษสุรา อีก 6 ปีต่อมาหลังจากพบแม่ชีมะเมี้ยครั้งสุดท้าย
.....ผู้บันทึกเรื่องนี้คือ เจ้าบัวนวล คู่หมั้นคนแรกที่ถอนหมั้นไปหลังจากรู้ว่าเจ้าน้อยมีมะเมี้ยะ ส่วนเจ้าบัวชุมเป็นข้าบาทจาริกาจนอายุ 81 ปี เจ้าบัวนวลบันทึกว่า ตลอดชีวิตเจ้าน้อยรักผู้หญิงคนเดียวจนสิ้นลม คือมะเมี๊ยะหลังจากนั้นเรื่องของเจ้าน้อยกับมะเมี้ยะ ก็ถูกสั่งห้ามพูดไปหลายปีเพราะเป็นเรื่องทางการเมือง ต้องปิดบัง รายละเอียดเลยหายไปเหลือแต่ตำนาน เจ้าบัวนวลพระคู่หมั้น เมื่อแรกรู้สึกเสียหน้าแต่หลังจากนั้นก็รู้สึกเห็นใจและศรัทธาในรักแท้ของเจ้าน้อยจริงๆ
...... เจ้าดารารัศมี บันทึกไว้ว่าทรงไม่คิดว่าเจ้าน้อย จะปักใจมั่นกับมะเมี้ยะ เจ้าดารารัศมีทรงคิดว่าหลายปีผ่านไป เมื่อได้ภรรยาที่ดีพร้อม เจ้าน้อยคงลืมความรักครั้งแรกได้ แต่เจ้าน้อยไม่ลืมจนสิ้นชีวิต