รับซื้อเพชร

ทางเว็บไม่อนุญาตให้โพสโฆษณา ประชาสัมพันธ์ใดๆ ทั้งสิ้น ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในเว็บไซต์ หากพบทางเว็บจะทำการลบทันที


เบื้องหลังข่าวกระโดดตึก ของเจ้าหญิงยวงแก้ว ธิดา “เจ้าน้อยค่ำคน”

  • 0 ตอบ
  • 2157 อ่าน
*

ออฟไลน์ ฮักล้านนา

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • 674
  • 306
    • ดูรายละเอียด
    • วัดร่องขุ่น
เบื้องหลังข่าวกระโดดตึก
ของเจ้าหญิงยวงแก้ว
ธิดา “เจ้าน้อยค่ำคน”

เจ้าหญิงผู้นี้มีนามว่า “ ยวงแก้ว สิโรรส “ เจ้าปู่คือ เจ้าหนานไชยวงศ์ ซึ่งเป็นหลานปู่ของ เจ้าฟ้าชายสาม เจ้าฟ้าเชียงตุง เจ้าย่าของเจ้าหญิงฟองสมุทร ซึ่งเป็นธิดาของ เจ้าหลวงเศรษฐีคำฝั้น เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ 3 กับแม่เจ้าตาเวยราชเทวี เจ้าพ่อคือ เจ้าน้อยคำคง ( คนเดียวกันที่ชาวเมืองเรียกว่า “ ค่ำคน “ ) เจ้าน้อยคำคง คนนี้เป็นน้องชายของเจ้าน้อยมหาวงศ์ เศรษฐีแห่งบ้านสันทรายมหาวงศ์ อำเภอสารภี เชียงใหม่
เจ้าหญิงยวงแก้ว สิโรรส มีเจ้าพ่อคือ เจ้าน้อยคำคง ( คนเดียวกันที่ชาวเมืองเรียกว่า “ ค่ำคน “ ) เป็นคนรูปงามมากคนหนึ่ง ซึ่งบรรดาเจ้าพี่นายน้องเทียบโฉมเปรียบกันก็ยากอยู่ และเป็นคนที่ค่อนข้างจะใจคอเข้มแข็งห้าวหาญแสนงอนและดุดันมากอยู่ทีเดียว ทั้งนี้เพราะได้ถ่ายทอดสายเลือดไปจากเจ้าน้อยตำตน ยอดนักเลงใหญ่แห่งนครเชียงใหม่ ในยุคกระนั้นเลยทีเดียว เจ้าหญิงยวงแก้วขาดแม่ที่อยู่ใกล้ เพราะเจ้าพ่อกับเจ้าแม่แยกกันไป เสด็จพระราชชายาทราบเข้า จึงโปรดให้รับตัวไปอยู่กับเสด็จตั้งแต่อายุ 7 ขวบ เท่านั้น พร้อมกับเจ้าหญิงบัวชุม ณ เชียงใหม่
เมื่อปี 2449 สมัยนั้น พวกนางในข้าหลวงในพระตำหนักของเจ้าจอมต่าง ๆ นิยมการเล่นเพื่อน หลงรักผู้หญิงด้วยกัน จนกระทั่งเอาทรัพย์สินเป็นของขวัญแลกเปลี่ยนกันไปมามิได้ขาด ซึ่งในสมัยนี้ เรียกกันว่า “ แฟน “ นั่นเอง
เจ้าหญิงยวงแก้ว สิโรรส มีแฟนเป็นหญิงชื่อ หม่อมราชวงศ์หญิงวงศ์เทพ ผู้อยู่ในตำหนักหนึ่งในพระบรมมหาราชวัง แต่บังเอิญหม่อมราชวงศ์หญิงวงศ์เทพ ผู้นี้มี “ แฟน “ สาวคนหนึ่งอยู่ก่อนแล้ว ชื่อ น.ส. หุ่น ต่างคนต่างชิงดีชิงเด่น ชิงไหวชิงพริบที่จะเอาชนะจิตใจซึ่งกันและกัน ระหว่างน.ส.หุ่นกับเจ้าหญิงยวงแก้วและในขณะที่ชิงดีชิงเด่นกันนี้เอง น.ส.หุ่นได้ปล่อยข่าวเป็นเชิงใส่ไฟกรอกเข้าหูบรรดาเจ้าพี่นายน้องว่า เจ้าหญิงยวงแก้ว นำของที่ได้ประทานจากพระราชชายา ซึ่งเป็นแก้วแหวนเงินทองเพชรพลอยที่เสด็จประทานให้นั้น ไปปรนเปรอหม่อมราชวงศ์หญิงวงศ์เทพ เสียหมดสิ้น
คราวนี้บรรดานางในได้นำไปกราบทูลเสด็จพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ให้ทราบว่าเจ้าหญิงยวงแก้วถูก “ หลอกตุ๋น “ เสด็จกริ้วมากที่สุดเรียกเจ้าหญิงยวงแก้วไปพบพร้อมบริภาษอย่างรุนแรงและสำทับให้เอาของมาคืนเสด็จท่านให้หมด นอกจากนี้ ก็ให้คาดโทษว่าจะส่งกลับนครเชียงใหม่เสียที ขณะนี้อารมณ์ยังไม่ปกติขอผลัดชำระโทษไว้อีกสัก 7 วัน จะลงโทษให้สาสมกับที่ทำให้พระองค์ช้ำพระทัยในความรักที่มีต่อเจ้าหญิงยวงแก้ว
ความอับอาย “ แฟน “ และเพื่อนในตำหนักเจ้าจอมต่าง ๆ และอายต่อหม่อมราชวงศ์หญิงวงศ์เทพ ทำให้เจ้าหญิงเกิดความกลัดกลุ้มใจมากเพราะจะเอาของมาคืนก็ไม่ได้ 2 – 3 วันต่อมาเสด็จพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ก็ยังเฉย ๆ อยู่ ในคืนที่เจ้าหญิงยวงแก้วจะทำอัตวินิบาตกรรมนั้น ตอนกลางคืน ยังได้นอนปรับทุกข์กับ เจ้าหญิงบัวชุม ณ เชียงใหม่ ซึ่งตอนนั้น ได้สมรสกับ
เจ้าอุตรการโกศล ( ศุขเกษม ) แล้ว และได้เข้าไปพักในพระตำหนักของเสด็จพระราชชายา โดยเจ้าอุตรการโกศล ขึ้นมาราชการที่นครเชียงใหม่
เจ้าหญิงยวงแก้ว พร่ำรำพัน ต่าง ๆ นานา ในความอาภัพของตนที่ถูกใส่ร้ายป้ายสีในครั้งนี้ แทนที่ทุกคนจะเห็นใจกลับเยาะเย้ยเหยียดหยามอีก เจ้าหญิงบัวชุมได้เพียรปลอบใจให้คลายโศกเศร้าลง แต่แล้วหลังจากเจ้าหญิงบัวชุมได้นอนหลับสนิทนั่นเอง..
เจ้าหญิงยวงแก้ว ได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนให้โลกรู้ว่าตนนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์มิได้กระทำดั่งข้อกล่าวหาและมิได้บังอาจกระทำการละเมิดต่อเสด็จพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ไม่มีใครจะตัดสินให้ความยุติธรรมแก่ตนได้ในโลกนี้ จึงขึ้นไปบนตึกพระตำหนักชั้น 4 แล้วกระโดดลงมาอย่างไม่กลัวตาย ด้วยน้ำใจอันเด็ดเดี่ยวแบบเจ้าน้อยคำคงผู้เป็นเจ้าพ่อ เพื่อให้โลกรู้ว่า “ข้ามิได้ทำผิดดังคนแกล้วใส่ความ” ผลคือเจ้าหญิงสลบคาที่
ในคืนนั้นเจ้าหญิงยวงแก้ว ถูกหามนำตัวไปรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลฝรั่ง ทางประตูผีท้องที่อำเภอสำราญราษฎร์และได้ถึงแก่ความตาย ณ โรงพยาบาลแห่งนั้น..
การตายของเจ้าหญิงยวงแก้ว พระพุทธเจ้าหลวงทรงทราบจึงได้รับสั่งให้เจ้าหน้าที่กรมวังไปทำการสอบสวนสาเหตุว่ามีเบื้องหลังซับซ้อนหรือไม่ นับว่าเป็นโชคดีที่เสด็จพระชายายังมิได้ลงโทษเฆี่ยนตีลงไป

ที่มา: หนังสือเพ็ชร์ลานนาฉบับพิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. ๒๕๐๗ โดย ปราณี ศิริธร ณ พัทลุง
จากเพจ เล่าเรื่องรัฐฉานกับล้านนาและล้านช้าง ในสยามประเทศ
กำเมือง ถ้าคนเมืองบ่อู้แล้วไผจะอู้